[Buyer’s Guide] Bose S1 Pro+ และ Bose S1 Pro “พัฒนาการอีกขั้นของลำโพงอเนกประสงค์จากโบส”

[Buyer’s Guide] Bose S1 Pro+ และ Bose S1 Pro “พัฒนาการอีกขั้นของลำโพงอเนกประสงค์จากโบส”

Bose (โบส) แบรนด์ชื่อดังจากสหรัฐอเมริกาคือผู้ผลิตเครื่องเสียงอีกหนึ่งรายที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทั้งในกลุ่มเครื่องเสียงบ้าน เครื่องเสียงสำหรับมืออาชีพและเครื่องเสียง PA (Public Address) ด้วยความเชี่ยวชาญในหลากหลายกลุ่มลำโพงนี้เองส่งผลให้โบสมีผลิตภัณฑ์บางรุ่นที่มีคุณสมบัติครอบคลุมการใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์

ตัวอย่างเช่น Bose S1 Pro (โบส เอสวันโปร) ลำโพงไร้สายที่มาในนิยาม “Portable Bluetooth Speaker System” เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ใช้งานที่มองหาลำโพงที่ให้คุณภาพเสียงดีเยี่ยมในแบบฉบับของโบสและมีความยืดหยุ่นในการใช้งานด้วยในเวลาเดียวกัน

Bose S1 Pro เปิดตัวครั้งแรกในงาน NAMM Show ปี 2018 และได้รับการนิยมในกลุ่มผู้ใช้งานหลากหลายสาขาวิชาชีพตลอดจนผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการระบบเสียงทรงพลังที่สามารถพกพาได้

โดยพื้นฐานแล้ว Bose S1 Pro เป็นลำโพงไร้สายที่มีขนาดกะทัดรัดจัดวางได้หลายรูปแบบ มีภาคขยายเสียงทรงพลังในตัว สามารถทำงานด้วยพลังงานแบตเตอรี่ในตัวซึ่งใช้งานได้นาน 11 ชั่วโมง เป็นอุปกรณ์ที่พกพาที่ใช้งานสะดวกด้วยการเชื่อมต่อรับสัญญาณผ่านทางอินพุตสำหรับไมโครโฟน/เครื่องดนตรี 2 ช่องสัญญาณ รวมถึงการรับสัญญาณเสียงทางช่องอินพุต AUX และแบบไร้สายผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth

ล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมาโบสได้เปิดตัว Bose S1 Pro+ (โบส เอสวันโปรพลัส) ลำโพงไร้สายอเนกประสงค์รุ่นใหม่ที่ได้รับการอัปเกรดมาใหม่ล่าสุด โดยได้เพิ่มคุณสมบัติต่าง ๆ เข้ามาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวมากยิ่งขึ้นไปอีก เหมาะสมกับการใช้งานในยุคสมัยนี้มากยิ่งขึ้น

Bose S1 Pro+ ลำโพงรุ่นใหม่และคุณสมบัติใหม่ ๆ ก้าวล้ำไปอีกขั้น
ลำโพง Bose S1 Pro+ มาในนิยาม “Music anywhere. Pro sound everywhere.” ยังคงออกแบบให้เป็นลำโพงเสียงทรงพลังที่มีขนาดกะทัดรัด จัดวางได้หลายรูปแบบเพิ่มอิสระในการจัดวาง

โดยสี่รูปแบบหลักจัดวางหรือติดตั้งเพื่อใช้งานได้แก่ การวางในแนวตั้ง, การวางในแนวตั้งและเชิดหน้าขึ้น, การวางในแนวนอน และการจัดวางบนขาตั้ง พร้อมฟังก์ชัน Auto EQ เพื่อปรับเสียงให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ

นอกจากนั้นแล้วดีไซน์ตัวตู้ลำโพง Bose S1 Pro+ ยังได้รับการออกแบบให้มีความโค้งมนมากขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า และมีน้ำหนักเบาลงจาก 7.2 กิโลกรัมในรุ่นก่อนหน้าเหลือ 6.8 กิโลกรัม ขณะเดียวกันที่ตัวลำโพงก็ยังมีหูจับด้านบนตัวลำโพงเพื่อความสะดวกในการหิ้วเคลื่อนย้ายตำแหน่งเช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้า สำหรับแบตเตอรี่ในตัวยังคงใช้งานได้นานถึง 11 ชั่วโมงเหมือนเช่นเคย

ในการด้านเชื่อมต่อใช้งาน Bose S1 Pro+ ยังคงมาพร้อมกับมิกเซอร์ 3 แชนเนล พร้อมรองรับการเชื่อมต่อสัญญาณเสียงผ่านทางอินพุตสำหรับไมโครโฟน/เครื่องดนตรี 2 ช่องสัญญาณทางขั้วต่อ XLR Combo Jack รวมถึงการรับสัญญาณเสียงทางช่องอินพุต AUX (ซึ่งมีขั้วต่อให้เลือกใช้งานสองรูปแบบ รุ่นก่อนหน้ามีขั้วต่อแบบเดียว) หรือการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านการสัญญาณ Bluetooth ที่ได้รับการอัปเกรดจาก Bluetooth 4.0 มาเป็น Bluetooth 5.0

และนอกจากไฟ LED แสดง Signal/Clip เหมือนใน Bose S1 Pro แล้วใน Bose S1 Pro+ ได้เพิ่มหน้าจอ OLED มาในช่องรับสัญญาณแต่ละช่องด้วย หน้าจอ OLED นี้สามารถแสดงการตั้งค่าต่าง ๆ ทำให้การใช้งานลำโพงรุ่นนี้ใหม่ง่ายและสะดวกขึ้นมาก รวมถึงการแสดงระดับพลังงานในแบตเตอรี่ที่ดูง่ายขึ้น

ข้อมูลที่สามารถแสดงบนหน้าจอ OLED นี้ก็อย่างเช่น ไอคอนแสดงสถานะช่องสัญญาณและการตั้งค่าระบบ ผู้ใช้งานสามารถดูการตั้งค่าได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นค่า Volume, EQ, Reverb หรือ ToneMatch EQ ทั้งแบบพรีเซ็ตและแบบที่ผู้ใช้งานกำหนดเองของแต่ละช่องสัญญาณ หรือสามารถดูได้ว่ามีการเชื่อมต่อเครื่องส่งสัญญาณไร้สายอยู่หรือไม่ หรือว่ามีการเปิดใช้งานโหมด Live Stream อยู่หรือเปล่า

นอกจากนั้นจอแสดงผล OLED ทั้งสามจอสามารถหมุนโดยอัตโนมัติตามการทิศทางการจัดตัวลำโพง Bose S1 Pro+ Plus ดังนั้นการอ่านค่าต่าง ๆ หรือการตรวจสอบการตั้งค่าจึงอ่านได้ง่ายมากไม่ว่าจะวางลำโพงเอาไว้ในลักษณะใด

นอกจากนั้นแล้วการตั้งค่าต่าง ๆ นี้ยังสามารถทำผ่านแอปฯ Bose Music ซึ่งเป็นแอปฯ ใหม่ที่รองรับฟังก์ชันต่าง ๆ มากกว่า พร้อมกับ ToneMatch library ที่รวมลิสต์อุปกรณ์หลายยี่ห้อหลากรุ่นให้เข้ากับอุปกรณ์ที่นำมาเชื่อมต่อด้วยบลูทูธ

Bose S1 Pro+ กับระบบเสียงไร้สายที่พัฒนาไปอีกระดับ
ในลำโพงรุ่นแรกอย่าง Bose S1 Pro นั้นหากว่าผู้ใช้งานต้องการเชื่อมต่อระบบไมโครโฟนหรือระบบเครื่องดนตรีแบบไร้สาย จำเป็นต้องมีชุดระบบเสียงไร้สายแยกส่วนเพิ่มมาต่างหากสำหรับอุปกรณ์เหล่านั้น

ทว่าใน Bose S1 Pro+ การใช้งานในลักษณะดังกล่าวได้รับการออกแบบให้มีความคล่องตัวมากขึ้นด้วยตัวรับสัญญาณไร้สาย 2.4 GHz แบบสองช่องสัญญาณในตัว (Integrated RF Receivers on Ch 1 and 2) เมื่อใช้งานร่วมกับตัวส่งสัญญาณไร้สายแบบ Plug-on รุ่น WT-INST หรือ WT-XLR ของโบสจำนวนหนึ่งหรือสองตัว ก็เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อไมโครโฟน, แหล่งสัญญาณเสียงระดับไลน์เลเวล หรือสัญญาณเสียงจากเครื่องดนตรี แบบไร้สายไปยังลำโพง Bose S1 Pro+ ได้อย่างอิสระในระยะ 30 ฟุตโดยไม่ต้องมีสายสัญญาณให้เกะกะรุงรัง

สะดวกมากขึ้นด้วยช่องชาร์จไฟสำหรับตัวส่งสัญญาณไร้สายแบบ Plug-on ในตัวลำโพง Bose S1 Pro+ จำนวนสองช่อง ซึ่งนอกจากสามารถใช้จัดเก็บ จับคู่เชื่อมต่อ และชาร์จไฟให้กับตัวส่งสัญญาณไร้สายได้ด้วย เวลานำไปใช้งานก็เพียงแค่นำตัวส่งสัญญาณไร้สายนี้ออกจากช่องใส่ด้านหลังลำโพงแล้วไปเสียบเข้ากับเครื่องดนตรีหรือไมโครโฟน โดยตัวส่งสัญญาณรุ่น WT-XLR ยังสามารถเลือกใช้ได้ด้วยว่าจะใช้งานกับไมโครโฟนหรืออุปกรณ์แหล่งสัญญาณเสียงระดับไลน์

เปรียบเทียบ Bose S1 Pro+ และ Bose S1 Pro
นอกจากความแตกต่างในด้านคุณสมบัติต่าง ๆ ตามตารางเปรียบเทียบลำโพงรุ่น Bose S1 Pro+ และ Bose S1 Pro แล้ว ในด้านคุณภาพเสียงข้อมูลจากโบสระบุว่าในรุ่นใหม่อย่าง Bose S1 Pro+ ตัวลำโพงได้ผ่านการปรับจูนเสียงให้สามารถถ่ายทอดรายละเอียดเสียงได้กระจ่างชัดเจนมากขึ้น มีช่วงเสียงร้องที่โดดเด่นยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกันก็ยังสามารถถ่ายทอดรายละเอียดในย่านความถี่ต่ำได้ดีขึ้นด้วย ให้เสียงทรงพลังในแบบฉบับของลำโพง PA ฟูลเรนจ์ที่มีสมดุลเสียงลงตัวตลอดย่านความถี่เสียง เช่นเดียวกับในรุ่นก่อนหน้าลำโพง Bose S1 Pro+ ยังคงโดดเด่นในด้านมุมกระจายเสียงในแนวนอนที่กว้างขวาง ทำให้ลำโพงสามารถกระจายเสียงได้ครอบคลุมพื้นที่ของผู้ฟังแม้จะใช้งานลำโพงเพียงแค่ตัวเดียว

ลำโพงไร้สายอเนกประสงค์พกพาได้ของโบสทั้งสองรุ่นเหมาะสำหรับงานพูดหรือการเป็นวิทยากรในงานบรรยาย การเล่นดนตรี/ร้องเพลงหรือแสดงสด หรือใช้งานในบ้านเป็นระบบเสียงคาราโอเกะ หรือเครื่องเสียงในงานปาร์ตี้

สำหรับในลำโพงรุ่นใหม่อย่าง Bose S1 Pro+ นั้นนอกจากมีคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นแล้ว ยังรองรับการเชื่อมต่อไมโครโฟนหรือเครื่องดนตรีต่าง ๆ แบบไร้สายได้ง่าย ๆ ด้วยการเพิ่มอุปกรณ์เสริมเข้าไปอีกเล็กน้อย เปิดโอกาสให้ผู้พูด นักแสดง นักร้องหรือนักดนตรี มีอิสระในการเคลื่อนที่มากขึ้น สามารถสนุกได้มากขึ้นแบบไร้พันธนาการจากสายสัญญาณรุงรัง

 
นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย:
บริษัท อัศวโสภณ จำกัด (www.asavasopon.co.th)
โทร: 0-2266-8136-8, 0-2234-6467-8 (สำนักงานใหญ่ซอยรามคำแหง 24)
ราคา: Bose S1 Pro+ 33,790 บาท
           Bose S1 Pro 29,900 บาท